ถ้าเลือกใช้ Ruger SP101 คู่กับ GP100 จะเหมาะมาก เพราะคู่นี้ถูกสร้างมาเพื่อกันและกัน ดูจาก Trigger Job ได้เลย การเปลี่ยนสปริง การแต่งไก ล้วนแต่ใช้วิธีการเดียวกัน และดูเหมือนว่าสปริงจะเป็นตัวเดียวกันด้วยซ้ำไป ถ้าเข้าใจไม่ผิด

ที่สำคัญ ความยุ่งยากในการถอด มันง่ายกว่า S&W เยอะมาก เพราะ S&W มีสกรูว์ที่ต้องขันหลายตัวที่ยึด side plate เอาไว้ แต่ละตัวมีตำแหน่งประจำของมันที่สลับไม่ได้ และมีสกรูว์อยู่ตัวหนึ่ง ที่จะยึดแน่นมากกว่าตัวอื่น และตัวนั้นมักมีปัญหาว่าหัวมันเยินได้ง่าย แต่กับ Ruger ทั้ง SP101 และ GP100 แล้วแต่ใช้สลักยึด (กับสปริง) เท่านั้น (มีน็อตตัวเดียวที่ใช้ ก็คือ ตรงบริเวณประกับด้ามปืน) ทำให้ดูแลรักษาง่ายกว่า นอกเหนือจากโครงปืนที่เซาะมาจากเหล็กก้อนเดียวกัน ไม่เหมือน S&W ที่เอาเหล็กมาประกบกัน และเวลาถอดต้องระวังอย่าให้สะเทือน ไม่งั้นชิ้นส่วนกระเด็นหมด (เคยเห็น บางอันน่ากลัวมันหล่นหาย)

Ruger SP101 มีขนาดเท่ากับ S&W K Frame (มีคนว่าไว้อย่างนั้น)
Ruger GP100 มีขนาดเท่ากับ S&W L Frame (เป็นคู่ชกกับ S&W M686)
.
ยิ่งดู ยิ่งชอบ ยิ่งมาคนบอกว่า ในกรณีที่ใช้ป้องกันตัวและทรัพย์สินจากโจร ไม่ใช่จากคู่อริศัตรู ไม่มีใครใช้เกิน ๓ นัด (และมีคนเล่าให้ฟังว่า หากพลเรือน ต้องใช้กระสุนนัดที่ ๓ ก็ให้เตรียมตัวเตรียมใจได้เลย ไม่รอด) ดังนั้น กระสุน ๕ นัด หรือ ๗ นัด ก็เหลือแหล่แล้ว
.
ตอนนี้ตัด CZ P09 ออกไป เหลือ Ruger SP101/GP100 นี่แหละ แต่อาจซื้อกลับกันกับคนทั่วไปที่มักจะซื้อกระบอกใหญ่ก่อน แล้วค่อยมาซื้อกระบอกเล็ก แต่เหตุเพราะต้องเอาไว้ให้ที่บ้านที่เป็นผู้หญิงไว้ใช้ประจำกายด้วย เวลาที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว การมีกระบอกใหญ่อาจหนักจนไม่พกติดตัว แต่วางไว้ไกลตัว หากเกิดเหตุ ตัวปืนนั่นแหละจะกลายเป็นเครื่องมือทำร้ายเราเองได้ เลยต้องเอาแบบที่สามารถพกติดตัวได้ง่ายๆไว้ก่อน
.
ดังนั้น SP101 .38 spl 2.25″ 5 rounds มาก่อน ตามด้วย GP100 .357 Magnum 4.2″ 7 rounds แล้วก็ไม่ต้องซื้ออย่างอื่นแล้ว

ที่มา https://www.facebook.com/FamAndGun/posts/489008334975130